วงการเกมเต็มไปด้วยเกมนับพันที่เปิดตัวมาแล้วตลอดหลายสิบปี ซึ่งสำหรับสายเกมเมอร์แบบเรามีเพียงไม่กี่เกมเท่านั้นที่สามารถครองใจผู้เล่นทั่วโลก
และกลายเป็นเกมระดับ"ตำนาน" ยังคงมีแฟนคลับเหนียวแน่นจนถึงปัจจุบัน ทั้งแฟนเกม แฟนอาร์ต แฟนสายสะสม วันนี้เราขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 10 เกมยอดนิยมตลอดกาล ที่เกมเมอร์ทุกคนควรลอง!
1. Grand Theft Auto V (GTA V)
เกมสุดคลาสสิกจาก Rockstar Games ที่ให้คุณสวมบทบาทในโลกอาชญากรรมของเมือง Los Santos แบบเสรีสุด ๆ ด้วยเนื้อเรื่องเข้มข้น ระบบออนไลน์ที่มีผู้เล่นนับล้านหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ GTA V อยู่ยืนยาวคือ GTA Online โหมด Multiplayer ขนาดใหญ่ที่ให้ผู้เล่นทั่วโลกมาร่วมกันปล้น ทำธุรกิจ หรือสร้างสรรค์ความวุ่นวายร่วมกัน สร้างตัวละครของคุณเอง ทำภารกิจกับเพื่อน สร้างแก๊ง ปล้นธนาคาร ลงแข่งรถ ปรับแต่งรถ บ้าน ธุรกิจ และเสื้อผ้า ไม่เพียงเท่านี้คุณยังสามารถเล่นแบบ offline ก็ยังได้

2. Minecraft
นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเกมมายคราฟ เกมแนว Sandbox ที่เปิดให้ผู้เล่นสร้างสรรค์โลกได้ตามจินตนาการ ด้วยกราฟิกแบบบล็อกสุดคลาสสิก คุณสามารถเล่นโหมดได้อย่างหลากหลาย เช่น โหมดเอาชีวิตรอด (Survival) ในโหมดนี้จะมีหลอดระดับเลือด ความหิว แถบพลังอาวุธ ผู้เล่นจะต้องใช้ชีวิตและใช้สกิลการเอาตัวรอด Minecraft โหมดสร้างสรรค์ (Creative) สำหรับคนชอบสร้าง ในโหมดนี้ผู้เล่นจะมีไอเทมต่างๆ ใช้ได้ไม่มีวันหมด เป็นอมตะ เหมาะสำหรับสายชิว ทำให้ Minecraft กลายเป็นหนึ่งในเกมขายดีที่สุดตลอดกาล และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลก

3. The Sims 4
เกมจำลองชีวิตที่ให้ผู้เล่นควบคุมทุกอย่างของตัวละคร ตั้งแต่ความรัก งาน ไปจนถึงการแต่งบ้าน ความยืดหยุ่นและความสนุกแบบไร้ขีดจำกัด ผู้เล่นสามารถสร้างบ้านด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่เพียงเท่านี้ตัวเกมยังมีภาคเสริมอื่นๆให้ดาวน์โหลดมากมาย เพื่อเพิ่มความน่าตื่นเต้นให้กับผู้เล่น ทำให้ The Sims 4 เป็นเกมที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลก

4. Valorant
เกม FPS แนว Tactical จาก Riot Games ที่ผสมผสานความแม่นยำแบบ CS:GO เข้ากับสกิลเฉพาะตัวของแต่ละเอเจนต์ที่หลากหลาย มีความสามารถแตกต่างกันทำให้ไม่น่าเบื่อ ตอนแรกคุณอาจยิงไม่โดนแต่รับรองได้ว่าหากเล่นไปนานๆ ติดใจแน่นอน และยังมีผู้เล่นจากทั่วโลก มีระบบแข่งขัน eSports และกราฟิกที่ลื่นไหลทำให้ผู้เล่นไทยจำนวนมากหลงรักเกมนี้

5. God of War (2018 / Ragnarok)
การกลับมาของ Kratos ในโลกเทพปกรณัมนอร์ส พร้อมลูกชาย Atreus กับเนื้อเรื่องเข้มข้นน่าตื่นเต้นอยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นไงต่อทำให้ผู้เล่นไม่อยากวางมือ นอกจากนี้ยังมีฉากต่อสู้ที่ดุเดือดมันส์ถึงใจ ภาพสวยระดับ AAA กลายเป็นเกมแอ็กชันที่ได้รับรางวัลเกมแห่งปี

6. Black Myth: Wukong
ต้องบอกเลยว่าเป็นเกมที่มีฉากต่อสู้เยอะมาก ถูกใจสายบู๊ นอกจากนี้ยังมีภาพที่สวยกราฟิกระดับเทพ ฉากคัดซีนที่เหมือนเราหลุดเข้าไปในเกมจริงๆ ผลงานเกมมาแรงจากประเทศจีน สวมบทเป็น “หงอคง” ในโลกที่ได้แรงบันดาลใจจากไซอิ๋ว ระบบต่อสู้น่าตื่นเต้น และบอสสุดอลังการทำให้หลายคนรีบซื้อมาเล่นอย่างไม่รีรอ คะแนน 10/10

7. The Little Nightmares
เกมแนวผจญภัยสยองขวัญที่ผสมความน่ารักและน่าขนลุกได้อย่างลงตัว ผู้เล่นต้องเอาตัวรอดจากโลกที่แปลกประหลาดและสิ่งมีชีวิตประหลาดเรื่องราวไม่มีคำพูด ไม่มีคำอธิบายชัดเจน แต่ถูกเล่าอย่างลึกซึ้งผ่าน สภาพแวดล้อม และ การตีความจากผู้เล่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกมนี้

8. Palworld
เกมที่ได้ฉายาว่า "โปเกมอนถือปืน" ผสมผสานโลกแฟนตาซีกับการเอาชีวิตรอด ผู้เล่นสามารถจับสัตว์ (Pals) มาใช้ในการต่อสู้ คราฟของ และทำฟาร์มได้ Palworld พัฒนาโดย Pocketpair ผู้สร้างเกม Craftopia ตัวเกมนำเสนอแนวทางที่ไม่เหมือนใคร โดยรวมเอาองค์ประกอบของ: การจับสัตว์คล้าย Pokémon การเอาชีวิตรอดแบบ Rust หรือ Ark การก่อสร้างฐาน, ฟาร์ม, โรงงาน การยิงปืน และต่อสู้แบบ Action

9. The Witcher 3: Wild Hunt
เกม RPG ระดับตำนานจาก CD Projekt RED 🧙♂️ เรื่องราวของ Geralt แห่ง Rivia ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Geralt of Rivia นักล่ามอนสเตอร์ในโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ สงคราม และการเมือง Geralt ออกเดินทางเพื่อตามหา Ciri เด็กสาวที่มีชะตาเกี่ยวพันกับอนาคตของโลก และต้องเผชิญกับภัยจาก “Wild Hunt” กองทัพปีศาจจากอีกมิติ

10. The Legend of Zelda: Breath of the Wild – ตำนานที่ปลุกชีพวงการเกมโลกเปิด
หนึ่งในเกมที่เปลี่ยนนิยามของเกมแนว Open World ไปตลอดกาล ผลงานมาสเตอร์พีซจาก Nintendo ที่ไม่เพียงครองใจแฟน Zelda เท่านั้น แต่ยังคว้ารางวัล Game of the Year และได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก 🌄 เรื่องราวแห่งฮีโร่และอิสรภาพ ในโลก Hyrule อันกว้างใหญ่ ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Link ที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหลยาวนานกว่า 100 ปี เพื่อหยุดยั้ง Calamity Ganon และช่วยเจ้าหญิง Zelda จากภัยพิบัติสิ่งที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นคือการเล่าเรื่องที่ “ไม่บังคับ” ผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทาง เดินเรื่อง และเล่นในแบบของตัวเองได้โดยไม่มีข้อจำกัด
